วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2551

คริสต์มาส


คริสต์มาส เป็นคำทับศัพท์จากภาษาอังกฤษ (Christmas) ซึ่งมาจากคำภาษาอังกฤษโบราณว่า Christes Maesse แปลว่า "บูชามิสซาของพระคริสตเจ้า" คำว่า "Christes Maesse" พบครั้งแรกในเอกสารโบราณเป็นภาษาอังกฤษ (เขียนขึ้นในปี ค.ศ. 1038) และในปัจจุบันคำนี้ก็ได้เปลี่ยนมาเป็นคำว่า Christmas
ประวัติความเป็นมาของวันคริต์มาส ซึ่งเป็นวันประสูติของพระเยซูนั้น ตามหลักฐานใน
พระคัมภีร์บันทึกไว้ว่า พระเยซูเจ้าประสูติในรัชกาลของจักรพรรดิออกุสตุสแห่งจักรวรรดิโรมัน ซึ่งทรงสั่งให้จดทะเบียนสำมะโนครัวทั่วทั้งแผ่นดิน โดยคีรีนิอัส เจ้าเมืองซีเรีย ก็รับนโยบายไปปฏิบัติให้มีการจดทะเบียนสำมะโนครัวทั่วทั้งอาณาเขต แต่ในพระคัมภีร์ ไม่ได้ระบุว่า พระเยซูประสูติวันหรือเดือนอะไร ด้านนักประวัติศาสตร์วิเคราะห์ว่า เดิมทีวันที่ 25 ธันวาคม เป็นวันที่จักรพรรดิเอาเรเลียนกำหนดให้เป็นวันฉลองวันเกิดของสุริยเทพ
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 274 ชาวโรมันซึ่งส่วนใหญ่นับถือเทพเจ้าฉลองวันนี้เสมือนว่า เป็นวันฉลองของพระจักรพรรดิไปในตัวด้วย เพราะจักรพรรดิก็เปรียบเสมือน
ดวงอาทิตย์ ที่ให้ความสว่างแก่ชีวิตมนุษย์ แต่ชาวคริสต์ที่อยู่ในจักรวรรดิโรมัน รวมถึงชาวโรมันที่เปลี่ยนไปนับถือคริสต์อึดอัดใจที่จะฉลองวันเกิดของสุริยเทพ จึงหันมาฉลองการบังเกิดของพระเยซูเจ้าแทน หลังจากที่ชาวคริสต์ถูกควบคุมเสรีภาพทางศาสนาตั้งแต่ปี ค.ศ. 64 - ค.ศ. 313 จนถึงวันที่ 25 ธันวาคม ปี ค.ศ. 330 ชาวคริสต์จึงเริ่มฉลองคริสต์มาสอย่างเป็นทางการและเปิดเผย

วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ศาลโลก


ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (อังกฤษ: International Court of Justice) หรือที่เรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า ศาลโลก (อังกฤษ: World Court) ตั้งขึ้นโดยกฎบัตรสหประชาชาติเมื่อ พ.ศ. 2489 เป็นองค์กรหลักภายใต้องค์การสหประชาชาติตั้งอยู่ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยทำหน้าที่สืบเนื่องต่อจากศาลประจำยุติธรรมระหว่างประเทศ (Permanent Court of International Justice) ที่ยุติบทบาทหน้าที่ไปพร้อมกับองค์การสันนิบาตชาติ ( ศาลประจำยุติธรรมระหว่างประเทศ ตั้งขึ้นเมื่อ 10 มกราคม พ.ศ. 2463 )
ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศมีอำนาจพิจารณาตัดสินคดีใดๆ ที่เป็นข้อพิพาทระหว่างประเทศ 2 ประเทศขึ้นไป (อังกฤษ: Contentious Case) เช่นข้อพิพาทเรื่องดินแดนอาณาเขต การละเมิดอำนาจอธิปไตย ปัญหาสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ หรือแม้แต่กรณีที่เกี่ยวข้องกับเอกชนที่รัฐเป็นผู้ฟ้องแทน ฯลฯ ทั้งนี้ประเทศที่เกี่ยวข้องจะต้องยินยอมรับอำนาจศาลให้เป็นผู้พิจารณาตัดสินก่อนเท่านั้น ศาลจึงจะมีอำนาจพิจารณาตัดสินคดีนั้นได้
นอกจากนี้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศยังมีอำนาจวินิจฉัยเพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นปัญหาในทางกฎหมาย ระหว่างประเทศ
(อังกฤษ: Advisory Opinion) ในสามกรณีหลัก คือ กรณีแรก ตามที่สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ หรือ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ร้องขอ กรณีที่สอง ตามที่องค์กรอื่นภายใต้สหประชาชาติหรือองค์การชำนัญพิเศษแห่งองค์การสหประชาชาติร้องขอโดยได้รับการอนุมัติจากสมัชชาใหญ่ และ กรณีที่สาม ตามที่ได้มีการให้อำนาจวินิจฉัยปัญหาไว้โดยสนธิสัญญา
เมื่อปี
พ.ศ. 2505 ประเทศไทยและประเทศกัมพูชาได้ยอมรับอำนาจศาลให้พิจารณาตัดสินคดีปราสาทเขาพระวิหาร โดยศาลได้ตัดสินว่าบริเวณปราสาทเขาพระวิหารส่วนสำคัญถือเป็นของประเทศกัมพูชา

วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ซีต้าแห่งบูร์บอง-ปาร์มา

เจ้าหญิงซีต้าแห่งบูร์บอง-ปาร์มา (พระนามเต็ม: ซีต้า มาเรีย แดลล์ เกรซี่ อาเดลกอนด้า มิคาเอล่า ราฟาเอลล่า กาเบรียลล่า กวีเซปปีน่า แอนโตเนีย หลุยซ่า แอกนีส; Zita Maria delle Grazie Adelgonda Micaela Raffaela Gabriella Giuseppina Antonia Luisa Agnese) พระองค์ทรงเป็นสามชิกราชวงศ์บูร์บอง-ปาร์มา ทรงเป็นพระมเหสีในสมเด็จพระจักรพรรดิคาร์ลที่ 1 แห่งออสเตรีย (สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 4 แห่งฮังการี) พระองค์ทรงเป็นสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งออสเตรีย และ สมเด็จพระราชินีแห่งฮังการีด้วย ดังนั้น พระองค์จึงมีพระอิสริยยศว่า สมเด็จพระจักรพรรดินีซีต้าแห่งออสเตรีย (สมเด็จพระราชินีซีต้าแห่งฮังการี) ; Her Imperial and Royal Majesty the Empress-Queen Zita of Austria-Hungary พระองค์ทรงเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของราชวงศ์ฝรั่งเศส ราชวงศ์โปรตุเกส และ ราชวงศ์สเปน
พระองค์ทรงเป็นพระราชบุตรองค์ที่ 17 ใน
ดยุคโรเบิร์ตที่ 1 แห่งปาร์มา เมื่อพระองค์ทรงอภิเษกสมรสกับอาร์คดยุคคาร์ลเมื่อปีพ.ศ. 2454 อีก 3 ปีต่อมา อาร์คดยุคคาร์ลทรงเป็นองค์รัชทายาทแห่งออสเตรีย-ฮังการี หลังจากที่พระราชปิตุลาของพระองค์ อาร์คดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์แห่งออสเตรีย-เอสต์ ถูกลอบปลงพระชนม์เมื่อปีพ.ศ. 2457 พระองค์จึงทรงได้ขึ้นครองราชย์หลังจากที่สมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟทรงสวรรคต
และหลังจากที่
สงครามโลกครั้งที่ 1 พระราชวงศ์อิมพีเรียลถูกอัปเปหิไปอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ขณะที่ประเทศออสเตรียและประเทศฮังการีถูกก่อตั้งขึ้นเป็นสาธารณรัฐขึ้นใหม่ ต่อมาก็ย้ายถิ่นฐานไปประทับที่เกาะมาไดร่า ประเทศโปรตุเกส ซึ่งเป็นสถานที่ที่ซึ่งพระสวามีของพระองค์ทรงเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่1 เมษายน พ.ศ. 2465 หลังจากที่พระสวามีสวรรคตแล้ว พระองค์ทรงแบกภาระเลี้ยงดูพระราชโอรสและพระราชธิดาเพียงพระองค์เดียวตั้งแต่ทรงมีพระชนมายุเพียง 28 พรรษา

วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ทวีปแอนตาร์กติกา

แอนตาร์กติกาเป็นทวีปที่อยู่ทางทิศใต้สุดของโลก โดยตั้งอยู่ในเขตแอนตาร์กติกเซอร์เคิล รอบขั้วโลกใต้ ล้อมโดยมหาสมุทรใต้ มีพื้นที่มากกว่า 14 ล้านตารางกิโลเมตร เป็นทวีปที่ใหญ่เป็นอันดับที่ห้าของโลก มีชายฝั่งยาว 17,968 กิโลเมตร
ประมาณร้อยละ 98 ของแอนตาร์กติกาถูกปกคลุมด้วย
แผ่นน้ำแข็งแอนตาร์กติกา แผ่นน้ำแข็งซึ่งหนาเฉลี่ย 1.6 กิโลเมตร ทวีปนี้มีน้ำแข็งถึงราวร้อยละ 90 ของน้ำแข็งทั้งหมดบนโลก ทำให้มีน้ำจืดประมาณร้อยละ 70 ของโลก ถ้าน้ำแข็งทั้งหมดละลายแล้ว ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นประมาณ 61 เมตร
จุดที่สูงที่สุดของทวีปคือ
ยอดเขาวินสันแมสซีฟ มีความสูง 4892 เมตร ตั้งอยู่ในเทือกเขาเอลส์เวิร์ท ถึงแม้ว่าแอนตาร์กติกาจะมีภูเขาไฟจำนวนมาก แต่มีเพียงแห่งเดียวที่ทราบแน่ชัดว่ายังคงคุกรุ่นอยู่คือภูเขาไฟเอเรบัส บนเกาะรอสส์ ในปีพ.ศ. 2547 นักสำรวจชาวอเมริกันและแคนาดาค้นพบภูเขาไฟใต้น้ำในคาบสมุทรแอนตาร์กติก โดยหลักฐานแสดงให้เห็นว่าภูเขาไฟนี้อาจยังคุกรุ่นอยู่เช่นกัน

วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

เอเวอเรสต์


ยอดเขาเอเวอเรสต์ (Mount Everest) เป็นยอดเขาหนึ่งในเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งเกิดจากการชนกันของแผ่นเปลือกโลกยูเรเซียนและแผ่นเปลือกโลกอินเดีย ในทางภูมิรัฐศาสตร์ ยอดเขาเอเวอเรสต์ถือเป็นจุดแบ่งพรมแดนระหว่างประเทศเนปาลและทิเบต โดยชาวเนปาลเรียกยอดเขาเอเวอเรสต์ว่า สครมาถา (ภาษาสันสกฤต: सगरमाथा หมายถึง หน้าผากแห่งท้องฟ้า) ส่วนชาวทิเบตขนานนามยอดเขาแห่งนี้ว่า โชโมลังมา (จากภาษาจีน: 珠穆朗玛 [จูมู่หลั่งหม่า] หมายถึง มารดาแห่งสวรรค์)
ชื่อยอดเขาเอเวอเรสต์นั้น ตั้งโดย
เซอร์แอนดรูว์ วอ นักสำรวจประเทศอินเดียชาวอังกฤษ เพื่อเป็นเกียรติแก่ เซอร์จอร์จ อีฟเรสต์ นักสำรวจประเทศอินเดียรุ่นก่อนหน้า (คำว่า Everest นี้ คนส่วนมากอ่านออกเสียงเป็น เอเวอเรสต์ ขณะที่เซอร์จอร์จอ่านออกเสียงชื่อสกุลของตัวเองว่า อีฟเรสต์) ซึ่งก่อนหน้านั้นนักสำรวจเรียกยอดเขาแห่งนี้เพียงว่า ยอดที่สิบห้า (Peak XV)
คนทั่วไปจดจำชื่อเอเวอเรสต์ได้ในฐานะยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก แต่สำหรับ
ชาวเชอร์ปาและนักปีนเขาบางคนแล้ว ยอดเขาเอเวอเรสต์ไม่ได้เป็นเพียงแค่จุดที่สูงที่สุดบนพื้นโลกเท่านั้น หากยังเป็นจุดหมายสูงสุดในชีวิตพวกเขาด้วย การไปให้ถึงยอดเขาเอเวอเรสต์เป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่เมื่อยอดเขาเอเวอเรสต์ถูกพิชิตได้ นั่นหมายความว่าขีดจำกัดของมนุษยชาติได้เพิ่มขึ้นอีกขั้นหนึ่งแล้ว

วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2551

กำแพงเมืองจีน

กำแพงเมืองจีนตั้งอยู่บนพรมแดนทางตอนเหนือของประเทศจีน เริ่มต้นสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ฉิน (ราวปี พ.ศ.322-337 หรือ 221-206 ปีก่อนคริสตกาล) โดยมีจุดประสงค์ในการเชื่อมโยงป้อมปราการให้เป็นหนึ่งเดียวเพื่อป้องกันการรุกรานจากชนเผ่ามองโกลในอดีต มีความยาวทั้งสิ้นกว่า 6,700 กิโลเมตร ถือเป็นสิ่งก่อสร้างโดยฝีมือมนุษย์ที่ยาวที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีมา ผู้คนจำนวนหลายพันคนต้องอุทิศชีวิตให้กับสิ่งก่อสร้างขนาดมหึมานี้ นอกจากนี้ เคยมีผู้กล่าวไว้ว่ากำแพงเมืองจีนเป็นสิ่งก่อสร้างเพียงอย่างเดียวในโลกที่สามารถมองเห็นได้จากอวกาศ กำแพงเมืองจีนได้รับการคัดเลือกโดยองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ.2529

วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ทานาบาตะ...วันของความรักแห่งทางช้างเผือก


วันทานาบาตะ..คือวันแห่งความรักและความ สุขสมหวังของดวงดาว 2 ดวง ดวงแรกมีนามว่า "โอริ ฮิเมะ" และดวงที่สองมีนามว่า "ฮิโกโบชิ" ตามความ เชื่อของคนญี่ปุ่นที่ได้เล่ากันต่อ ๆกันมาว่า ดวงดาวสองดวงนี้ต้องพรัดพราก จากกันโดยมีทางช้างเผือก หรือที่คนญี่ปุ่นสมัยโบราณตั้งชื่อให้ว่า อามาโน่ คาวาตามจินตนาการของคนสมัยโบราณจะมองเห็น ทางช้างเผือกที่มีดวงดาวนับร้อยนับพันดวงมารวมกันเป็นทางยาวนั้นเขามอง เห็นเป็นเหมือนแม่น้ำสายใหญ่และตั้งชื่อให้ว่า "อามาโน่ คาวา"ซึ่งแปลตาม ศัพท์ตรง ๆว่า" แม่น้ำแห่งสวรรค์" และแม่น้ำสายนี้เป็นแม่น้ำสายที่ขวางกัน ดวงดาวสองดวงให้ต้องพรัดพรากจากกัน แต่ในทุก ๆปี ของวันที่ 7 เดือน 7 (กรกฏาคม) ซึ่งเป็นวันที่ทางช้างเผือกจะออกมาปรากฏบนท้องฟ้าประเทศ ญี่ปุ่นให้ได้เห็นกันในทุก ๆปีนั้น..จะเป็นวันที่ดวงดาวสองดวงคือ "โอริ ฮิเมะ" กับ"ฮิโกโบชิ" จะได้มีโอกาศได้มาพบกันสมดังใจที่คิดถึงดังใจปรารถนาของทั้งสอง และในวันนี้ก็เป็นวันที่ให้กำเนิดพิธี "ทานาบาตะ" ขึ้นมาคนญี่ปุ่นจะเชื่อถือและเล่ากันต่อ ๆมาสู่ลูก ๆหลาน ๆว่า"ให้ไปตัดต้นไผ่ นำมาปักไว้ในรั้วบ้านและให้เขียนคำอธิฐานใส่กระดาษ นำไปผูกไว้ที่ต้นไผ่ที่ ตัดมา แล้วคำอธิฐานอันนั้นก็จะได้ผลสมดังใจปรารถนาเหมือนกับ"โอริ ฮิเมะ" และ "ฮิโกโบชิ"ที่ได้สมหวังและได้พบกันในวันนั้น

ชีวิตแสนสั้น



ชีวิตแสนสั้นโลกนั้นแสนไกล
เดินทางแค่ไหนก็ยังอาจไม่สุดปลายทาง
แต่ชีวิตนั้นไม่นานก็คงจะจบ
แต่จะจบอย่างไรนั้นอยู่ที่เรา
สิ่งที่ทำเรื่องที่ก่อและสิ่งต่างๆจะชี้นำ
ให้จุดจบนั้นสมบูรณ์หรือไม่ก็คงอย่ที่ใจและตัวเรา

=Friend=


Friendship Quotes from dolliecrave.com


Friendship Quotes

วันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2551

ทัชมาฮาล



ตามประวัติเล่าว่า มุมทัชมาฮาล เป็นผู้หญิงที่งดงามมีเสห่น์ที่สุดในโลก นามเดิมว่า อรชุมันต์ภานุเบคุม เป็นบุตรของท่านอสัฟข่าน มารดาชื่อ ทิจันเบคุม อสัฟข่าน มุมทัชมาฮาล เกิดเมื่อ ค.ศ. 1592 เธอสนใจวิชาวรรณคดี ถนัดวิชาวาดเขียนและดนตรีมาก ได้สมรสกับชาห์ชะฮาน ขณะที่เธออายุ 19 ปี อยู่กินกันถึง 18 ปี มีบุตรชาย 8 คน บุตรหญิง 9 คน แต่มีชีวิตอยู่เพียง 5 คน เธอถึงแก่กรรมลงขณะคลอดลูกสาวคนสุดท้องชื่อ เกาษะนารา ตลอดเวลา 18 ปี มุมทัชมาฮาล เป็นภรรยาที่แสนประเสริฐเป็นที่รักของชาน์ชะฮาน เธออยู่ข้างสามีตลอดเวลาไปไหนไปด้วยกัน แม้ว่าจะออกทัพจับศึกก็ตามไปให้กำลังใจเสมอ มุมทัชมาฮาล จูงใจให้กษัตริย์ชาห์ชะฮานบังเกิดความรัก ความเมตตา โดยการช่วยเหลือคนยากจน คนพิการ และคนที่ประสบความทุกข์ลำบาก ซึ่งคุณสมบัตินี้ ทำให้กษัตริย์ชาห์ชะฮานรักเธอ ตรึงใจในเธอ ตรึงใจในเธอมิรู้ลืม วาระสุดท้ายที่มุมทัชมาฮานมเหสีสุดที่รักของกษัตริย์ชาน์ชะฮานจะจากไปอย่างไม่มีวันกลับ กษัตริย์ชาห์ชะฮานยกทัพไปปราบกบฏข่านชะหานโลดีที่เดกคานโดยมีมุมทัชมาฮาลติดตามไปให้กำลังใจสามีด้วย ทั้งๆที่เธอตั้งท้องแก่ เมื่อกษัตริย์ชาห์ชะฮานปราบกบฏราบคาบแล้ว ก็กลับเมืองมุระหันปุระ มุมทัชมาฮาลเจ็บท้องคลอดลูกคนสุดท้าย พอเธอคลอดแล้วเธอตกเลือดมากอยู่เพียงชั่งโมงเดียวก็สิ้นใจในอ้อมกอดของกษัตริย์ชาห์ชะฮาน ก่อนที่มุมทัชมาฮาลจะสิ้นใจเธอได้ขอร้องสามี 2 ข้อด้วยกัน คืออย่าให้กษัตริย์ชาห์ชะฮานมีภรรยาใหม่ และขอให้กษัตริย์ชาห์ชะฮานสร้างอนุสาวรีย์ที่ฝั่งศพของเธอให้งดงาม เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกให้ได้ กษัตริย์ชาห์ชะฮานรับปากที่จะปฏิบัติตามทุกอย่าง เยี่ยงสามีที่รักภรรยาอย่างสุดชีวิตทั้งหลาย ในครั้งแรกศพของมุมทัชมาฮาลฝังไว้ที่เมืองมุระหันปุระ เพื่อเตรียมเคลื่อนย้ายไปสู่นครอัคระ จนกระทั่งต่อมาอีก 6 เดือนกษัตริย์ชาห์ชะฮานได้สั่งให้เคลื่อนย้ายศพของเธอไปบรรจุไว้ที่หลุมฝั่งศพในสวนราชาฃัยสิงห์ แห่งนครอัคระโดยสร้างศาลาชั่วคราวไว้เหนือหลุมศพ เล่ากันว่า ในวันเคลื่อนศพมุมทัชมาฮาลมายังนครอัคระนี้ ได้จัดริ้วขบวนเกียรติยศยิ่งใหญ่มากเจ้าชายสุชาโอรสองค์ที่สองของกษัตริย์ชาห์ชะฮาน นำขบวนประยูรญาติเดินตามพระศพ มีการโปรยทานตลอดทาง นับแต่มุมทัชมาฮาลสิ้นชีวิต กษัตริย์ชานห์ชะฮานหมกมุ่นอยู่ในความทุกข์ตลอดเวลา มิได้ยิ้ม มิได้หัวเราะ โดยเฉพาะมิได้สนใจต่อร่างกายปล่อยเนื้อปล่อยตัว จนผมดำกลายเป็นผมขาวทั้งศีรษะ ทุกวันกษัตริย์ชาน์ชะฮานนุ่งขาวห่มขาว ไปนั่งรำพันถึงมุมทัชมาฮาลข้างหลุมศพ บางครั้งกอดหลุมศพรำพันอย่างเสียสติ กษัตริย์ชาห์ชะฮาน ได้โปรดนำเงินหนึ่งแสนรูปีออกทำบุญแผ่กุศลแก่มุมทัชมาฮาลจากที่เธอจากไปเป็นเวลา 3 ปี ในปี ค.ศ. 1631 กษัตริย์ชานห์ชะฮานโปรดให้สร้างอนุสาวรีย์ใหญ่ เป็นที่ฝั่งศพของมุมทัชมาฮาลโดยเลือกบริเวณฝั่งขวาแม่น้ำยมนา ตอนโค้งที่สวยงามและเหมาะที่สุด โดยที่นี่เดิมเป็นสวนของขุนนางผู้ใหญ่หลายท่าน มีเนื้อที่ 125 ไร่ ครั้งแรกกษัตริย์ชานห์ชะฮานให้ทำรูปจำรองก่อนด้วยไม้ เมื่อรูปจำรองพอใจแล้ว จึงมีการลงมือสร้างด้วยหินอ่อนขาวชนิดเยี่ยมทั้งสิน สถาปนิกที่ออกแบบก่อสร้างอนุสาวรีย์ที่ยิ่งใหญ่ กษัตริย์ชาห์ชะฮานได้เชิญสถาปนิกเอกทั่วอินเดีย และประเทศเตอร์กีเปอร์เซีย ซึ่งเป็นพันธมิตรกัน ผู้ที่มีฝีมือยอดเยี่ยมซึ่งกษัตริย์ชาน์ชะฮานคัดเลือกคือ มุหะมัด อิซเอฟันดี ชาวเตอรกี โดยมี มุหะมันชารีฟแห่งแคว้นซามาระกันต์ เป็นผู้ช่วย ทั้งสองได้รับเงินเดือนๆละ 1 พันรูปี มุหะมัด ฮานนีฟ แห่งอัคร เป็นผู้อำนวยการสร้างฝ่ายวิศวกรอิสไมล์ข่าน แห่งเตอรกี เป็นผู้สร้างโดมมโนสิงห์ แห่งละโฮว์ มันสิฑาร์ แห่งมุลตาล โหันลาล แห่งกาเนาร์ เป็นผู้อำนวยการฝ่ายตกแต่ง อมานัข่าน แห่งเปอร์เซีย และมุหะมัดข่าน แห่งแบหแดด เป็นผู้ประดิษฐ์อักษรจารึก ซาดสมานิ ข่าน แห่งอาหรับเป็นผู้อำนวยการฝ่ายศิลปะทั่วไป อมตามูหะมัก แห่งมอคารวา เป็นนานช่างแกะสลั อับดุลสะ แห่งเมืองเดลี มุหะมัด สัจจะ แห่งเมืองบอล์ซ และสกุลลา แห่งเมืองมุลตาน เป็นช่างก่ออิฐ พลเทพพาส อมีร์อาลีราษันข่าน แห่งมุลตาน เป็นผู้สลักดอกไม้ อับดุล การิบ และมาการะมัดข่าน เป็นผู้สร้างที่ฝั่งศพ มุฮัมมัดอิชา ออกแบบอนุสาวรีย์ โดยอาศัยเค้าโครงจากที่ฝั่งศพของหูมายูนที่เมืองนิวเดลี
วัสดุก่อสร้างทั้งหลายมาจากที่ต่างๆ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
1. หินอ่อน ได้จากเมืองชัยปุร
2. ศิลาแลง จากฟาเตปุรริขรี
3. พลอยสีฟ้า จากธิเบต
4. พลอยสีเขียว จากอียิปต์
5. หินสีฟ้า จากคัมภัย
6. โมรา จากคัมภัย
7. เพชร จากเมืองฟันนา
8. หินทองแดง จากรัสเซีย
9. หินทราย จากแบกแดด
นอกจากนี้ยังมีเครื่องประดับจากมิตรประเทศอีกหลายแห่ง สถานที่ก่อสร้างแรกที่เดียวสร้างเป็นนิคมให้คนงานอยู่ ชื่อว่า มุมทัชชาบัด ปัจจุบันยังมีซากเหลืออยู่บ้าง เรียกว่า ตาจกันซ์ ทุกคน ทุกฝ่ายทุ่มเทสุดความสามารถทุ่มเทชีวิต สร้างอนุสาวรีย์ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้เพื่อถวายความจงรักภักดีต่อมุมทัชมาฮาล ผู้เคยให้ความเมตตากรุณาต่อพวกเขาอย่างยิ่ง ในขณะที่เธอยังมีชีวิตอยู่ ยิ่งประณีตวิจิตรบรรจงเท่าใด ก็เป็นการถวายความจงรักภักดีมากเท่านั้น อนุสาวรีย์มุมทัชมาฮาลสำเร็จเสร็จสิ้นลงอย่างงดงาม หลังใช้เวลาในการก่อสร้างตกแต่งทั้งสิ้นถึง 22 ปี
หีบศพของมุมทัชมาฮาลถูกเคลื่อนย้ายมาประดิษฐานอยู่ในห้องใต้ดินบริเวณโดม และบิเวณโดมมโนสิงห์ซึงปรากฏหีบศพของมุมทัชมาฮาล และของกษัตริย์ชาห์ชะฮาน ประดิษฐานอยู่นั้นเป็นหีบศพจำลอง กษัตริย์ชาห์ชะฮาน เฝ้าระทมเพราะการจากไปของมุมทัชมาฮาล มเหสีสุดที่รักอยู่เป็นเวลา 36 ปี ก็พอดีเกิดศึกกลางเมืองมีการแย่งชิงราชบัลลังก์ขึ้นระหว่างพระโอรสของกษัตริย์ชาห์ชะฮานเอง กษัตริย์ชาห์ชะฮานถูกจับไปขังไว้ที่ป้อมใหม่เมืองอัคระเอารังเซบ โอรสของกษัตริย์ชาห์ชะฮานขึ้นครองบัลลังก์แทนกษัตริย์ชาห์ชะฮานได้สวรรคตที่ป้อมแห่งนี้ ก่อนสิ้นใจได้ขอให้ชาราพาประคองศีรษะของพระองค์ขึ้น ให้มองเห็นภาพทัชมาฮาล เพื่อระลึกถึงยอดรักของพระองค์ในนาทีสุดท้าย เอาวังเซบราชโอรสจึงได้นำพระศพของพระบิดามาประดิษฐานไว้เคียงข้างพระศพของมุมทัชมาฮาล ณ อณุสาวรีย์ที่สวยที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุด มหัสจรรย์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และสถิตอยู่ให้โลกพิศวงกระทั่งปัจจุบันนี้ จัดเป็นสิ่งมหัศจรรย์ 1 ใน 7 ของโลกยุคปัจจุบัน

วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2551

Roche


Une roche est un matériau formé par un agrégat naturel de minéraux, de fossiles, et/ou d'éléments d'autre(s) roche(s).
La
pétrographie (du grec petra, pierre, et graphê, description) est la science de la description et de l'analyse des roches, alors que la pétrologie (du grec petra et logo, étude) est la science qui étudie les mécanismes de formation et de transformation des roches. La science associée à l'étude des mouvements et déformations des roches s'appelle la mécanique des roches.
Les roches peuvent être formées d'une seule (
calcite des calcaires et des marbres, quartz des quartzites) ou de plusieurs espèces minérales comme pour les granites, les basaltes, le gneiss.Une roche est un matériau formé par un agrégat naturel de minéraux, de fossiles, et/ou d'éléments d'autre(s) roche(s).
La
pétrographie (du grec petra, pierre, et graphê, description) est la science de la description et de l'analyse des roches, alors que la pétrologie (du grec petra et logo, étude) est la science qui étudie les mécanismes de formation et de transformation des roches. La science associée à l'étude des mouvements et déformations des roches s'appelle la mécanique des roches.
Les roches peuvent être formées d'une seule (
calcite des calcaires et des marbres, quartz des quartzites) ou de plusieurs espèces minérales comme pour les granites, les basaltes, le gneiss.

Poisson


Dans la classification classique les poissons sont des animaux vertébrés aquatiques à sang froid, pourvus de nageoires et dont le corps est le plus souvent couvert d'écailles. On les trouve abondamment aussi bien en eau douce que dans les mers : on trouve des espèces depuis les sources de montagnes (omble de fontaine, goujon) jusqu'au plus profond des océans (grandgousier, Anoplogaster cornuta). Le milieu marin étant moins accessible aux humains, de nombreuses espèces restent encore à découvrir.
Ils sont d'une importance capitale aux humains en tant que
nourriture partout dans le monde, qu'ils soient pêchés dans la nature ou élevés en pisciculture. Ils sont aussi exploités à des fins récréatives, avec la pêche et l'aquariophilie, et sont parfois exposés dans de grands aquariums publics. Ils jouent un rôle significatif dans de nombreuses cultures, que ce soit en tant que déités et symboles religieux, ou sujets de livres et de films.

Christian Dior


Né en 1905 à Granville (Manche) au cœur d’une famille d’industriels avisés inventeurs de la très connue marque de lessive « Saint-Marc », Christian Dior grandit dans une ambiance très Belle-Époque. Apparemment, il est tout de suite attiré par la musique, le dessin et la confection de déguisements. Une anecdote raconte qu'en 1919, lors d’une kermesse en Normandie, une chiromancienne lui prédit que « les femmes vous seront bénéfiques, et c’est par elles que vous réussirez ».
Au lendemain de la
Première Guerre mondiale, il rejoint Paris où il se lie d’amitié avec quelques artistes des Années Folles, et notamment avec le poète Max Jacob et Jean Cocteau. Sa mère veut qu'il suive une carrière diplomatique, et Christian Dior s'inscrit à l’Ecole des Sciences Politiques, qu’il quitte en 1926 sans le moindre diplôme.

วันพุธที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ฝรั่งเศส ดินแดนแห่งเทศกาล

งานฉลองที่มีสีสันและสนุกสนานตั้งแต่เช้ายันค่ำ จะหมุนเวียนจัดกันไปจัดตามเมืองต่างๆ ทั่วฝรั่งเศส
งานเทศกาลที่จัดกันในปัจจุบันล้วนเป็นมรดกตกทอดสืบต่อกันมาตั้งแต่ครั้งอดีต หมู่บ้านแต่ละแห่งจะต้องมีงานฉลองของตน และในแต่ละเมืองจะต้องมีเทศกาลของดีของเด่นประจำปีไว้สนุกสนานกัน เช่น งานเดินขบวนคนยักษ์ (คนต่อขา) ของทางตอนเหนือของฝรั่งเศส งานคาร์นิวัลเมืองนีซ (Nice) งาน Ferias เมืองนีมส์ (Nîmes) และเมืองอาร์ล (Arles) งานประจำปีเมืองบายอน (Bayonne) หรือเมืองเบซิเยส์ (Béziers) ฯลฯ งานเหล่านี้เป็นที่รวมความสนุกสนานของชาวเมืองซึ่งยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างถิ่นให้มาร่วมความบันเทิงด้วยกัน นอกจากงานเทศกาลต่างๆ ในเขตภูมิภาคแล้ว ฝรั่งเศสยังมีงานสำคัญประจำปีระดับชาติอีก 2 งาน ซึ่งทุกเมืองจะเฉลิมฉลองพร้อมๆ กัน งานแรกคืองานวันชาติ 14 กรกฎาคมซึ่งเป็นวันสำคัญที่เปิดตัวด้วยการสวนสนามของทหารเหล่าต่างๆ และจัดขึ้นอย่างใหญ่โตที่ถนนชองส์-เอลิเซ่ส์ (Champs-Elysées) อันเลื่องชื่อของปารีส พอถึงกลางคืนจะมีการจุดดอกไม้ไฟที่สวยงามตระการตา และมีงานเต้นรำที่สนุกสนานแบบฝรั่งเศสแท้ ส่วนตามเมืองใหญ่ๆ มักจัดการแสดงดนตรีกลางแจ้งให้ชมกันโดยไม่ต้องเสียค่าผ่านประตู งานใหญ่งานที่สองคือ เทศกาลดนตรีซึ่งจัดขึ้นทุกวันที่ 21 มิถุนายน เทศกาลนี้เปิดโอกาสให้คนรักดนตรีทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นได้แสดงความสามารถกันเต็มที่และสุดเหวี่ยงในท้องถนนและทุกหนทุกแห่ง นอกจากนี้ยังมีเทศกาลเพลงคลาสสิค ละคร ละครสัตว์ และอื่นๆ อีกมากมายตลอดทั้งปี เพียงเท่านี้คุณก็คงพอรู้แล้วว่าในฝรั่งเศสความสนุกสนานเพลิดเพลินนั้นไม่มีการเว้นวรรคจริงๆ

วันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

หอไอเฟล


หอไอเฟล (Eiffel Tower) ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นหอคอยที่มีความสูงเสียดฟ้า มีความงามสง่า รูปร่างอ่อนช้อย ซึ่งสะท้อนให้เห็นจิตวิญญาณของฝรั่งเศส หอไอเฟลได้รับการออกแบบและก่อสร้างในปี ค.ศ.1839 มันคือผลงานชิ้นเอกในการ -ฉลองการปฏิวัติฝรั่งเศสอันนองเลือดเมื่อ 100 ปีก่อนหน้า หอคอยเหมือนเป็นสิ่งที่ชาญฉลาดทางเทคโนโลยี ในอดีตไม่เคยมีใครสร้างหอคอยที่สูงกว่า 1,000 ฟุต หลายคนพยายามลอง แม้กระทั่งในสหรัฐอเมริกาก็มีการออกแบบไว้อยู่หลายแบบ แต่ก็ไม่เคยสร้างจริงขึ้นมา ฝรั่งเศสได้จัดการประกวดเพื่อออกแบบหอคอย แบบแรกถูกเสนอโดย เวอร์ริส คล็อกลิน ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะวิศวกรของ กุสตาฟ ไอ-เฟล (Gustave Eiffel) กุสตาฟ ไอเฟล เป็นคนแรกที่เดินขึ้นบันได 1,710 ขั้น เพื่อขึ้นไปที่จุดสูงสุดของหอคอย แล้วแขวนธงชาติ 3 สีของฝรั่งเศส มีการเปิดงานแสดงสินค้าในปี ค.ศ.1889 ในกรุงปารีส งานชิ้นเอก คือหอคอยที่สูงกว่า 300 เมตรที่งดงาม และในที่สุดมันจะเป็นที่รู้จักในนาม หอไอเฟล ท้องฟ้าสีกุหลาบยามเย็น กัดสีผนังลายหินอ่อนของสถาปัตยกรรมในปารีส หอไอเฟลก็ยังคงตั้งอยู่ในฐานะของความมหัศจรรย์ทางเทคโนโลยี ความสำเร็จทางวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม เป็นสัญลักษณ์แห่งกรุงปารีส และ เป็นยังคงเป็นจิตวิญญาณของฝรั่งเศสเรื่อยไป.....

วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

วันชาติฝรั่งเศส

งานวันนี้หนุกมากเรยอ่ะ

มีฟามสุข

ห้อง ม.5/7 ร้องเพลงเพราะที่ซู้ดๆๆ